วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2559

๒.ภาพพจน์

๒.๑การเปรียบเทียบเกินจริง คือ การกล่าวเกินจริง เพื่อให้ได้คุณค่าทางอารมณ์เป็นสำคัญในโครงบทที่ ๑๓๙ที่ว่า
                  เอียงอกเทออกอ้าง              อวดองค์  อรเอย
                เมรุชุบสมุทรดินลง                เลขแต้ม
                อากาศจักจารผดง                 จารึก พอฤา
                โฉมแม่หยาดฟ้าแย้ม               อยู่ร้อนฤาเห็น
กวีใช้คำ เอียงอกเท แทนสิ่งที่อยู่ในใจ ใช้เขาพระสุเมรชุบน้ำและดินแทนปากกาเขียนข้อความในโอกาส ซึ่งล้วนเป็นลักษณะที่เกินความจริง
        ส่วนบทที่แสดงการคร่ำครวญถึงนางอันเป็นที่รัก ไม่มีบทใดหนักแน่นเท่ากับโครงบทที่ ๑๔๐ ที่ว่า
                  ตราบขุคิริข้น                     ขาดสลาย แลแม่
               รักบ่หายตราบหาย                หกฟ้า
      สุริยจันทรขจาย                    จากโลก ไปฤา
      ไฟแล่นล้างสี่หล้า                   ห่อนล้างอาลัย
โครงบทนี้เป็นตัวอย่างของการใช้กวีโวหารเปรียบเทียบที่โลดโผนอีกบทหนึ่งกวีใช้ภาพพจน์ชนิดอธิพจน์ ซึ่งเป็นการกล่าวเกินจริงเพื่อสร้างอารมณ์และความรู้สึก ในที่นี้เมื่ออ่านแล้ว นักเรียนจะเห็นโอกาสที่กวีจะสิ้นอาลัยนางมิอาจเป็นไปได้เลย เพราะกว่าที่ขุนเขา สวรรค์ทั้ง๖ชั้น ดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์จะสูญสลายไปจากโลกนั้น คงนานแสนนานจนกำหนดนับมิได้และกว่าจะมีไฟบรรลัยกัลป์มาล้างโลกทั้ง ๔ นั้น ก็ต้องกินระยะเวลาอันยาวนานที่มิอาจนับได้เช่นกัน ดังนั้น โครงบทนี้จริงเป็นโครงปิดฉากการคร่ำครวญได้อย่างงดงาม โดยการให้ปฏิญญาที่มีน้ำหนักมากที่สุดแก่นางคือ กวีจะมิมีวันสิ้นรักและอาลัยนางนั้นเอง
        ๒.๒) การใช้บุคคลวัต กวีใช้การสมมติสิ่งต่างๆ ที่ไม่ใช่มนุษย์ให้มีกิริยาอาการความรู้สึกเหมือนมนุษย์
                  จากมามาลิ่วล้ำ                  ลำบาง
               บางยี่เรือราพลาง                  พี่พร้อง
               เรือแผงช่วยพานาง                เมียงม่าน มานา
               บางบ่รับคำคล้อง                  คล่าวน้ำตาคลอ
         จะเห็นได้ว่ากวีใช้บางยี่เรือและเรือแผงให้มีกิริยาเหมือนมนุษย์ คือ ให้บางยี่เรือช่วยเอาเรือแผงไปรับนางมาแต่นางยี่เรือก็ไม่รับคำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น